[FLARE-On] Overlong – An Unexpected Solution

# Radare2

https://asciinema.org/a/nsELfKZ3XPdQt4cRYCQmCr6Em

# OllyDbg

https://www.youtube.com/watch?v=1kHMGGzayzI

Thailand CTF 2019 – What is a URL Again (Write-up)

ในข้อนี้โจทย์มีชื่อว่า What is a URL Again สามารถดาวน์โหลดโจทย์ได้ที่ลิงค์นี้ >>> What is a URL Again.zip

ทำการแตกไฟล์ออกมา จะได้ไฟล์ memdump.mem ออกมา อันนี้ไม่ต้อง file ก็น่าจะรู้นะว่าไฟล์อะไร แฮ่! 🤣

ลอง binwalk ดูซะหน่อยว่ามีไรบ้าง … 🧐
เพียบ… 😵

ในที่นี้เราจะใช้ volatility ในการวิเคราะห์ข้อมูล เนื่องจากเป็น Volatile Data (สงสัยถามกู๋โลดนะครับ 🤣)
ขั้นแรกลองรัน Imageinfo ดูก่อนเพื่อดูข้อมูลคร่าวๆของไฟล์ memdump ไฟล์นี้
$ volatility -f memdump.mem Imageinfo
ซึ่งต่อไปเราต้องระบุ Windows Profile ด้วย โดยในที่นี้จะใช้ Win7SP1x64

ต่อไปจะทำการลิสต์ process ทั้งหมดขึ้นมา โดยเราสามารถใช้ได้หลายคำสั่ง เช่น pslist, psscan, pstree, psxview ในที่นี้ใช้ psxview เนื่องจากดูเป็นระเบียบมากกว่าตัวอื่น ไม่รกดี 😅
$ volatility -f memdump.mem --profile=Win7SP1x64 psxview

จากทุก Process ที่มี มีตัวที่น่าสนใจที่สุดคือ notepad.exe PID: 2892

ไหนลองเช็คซิ ว่าเปิดไฟล์อะไรอยู่หรือเปล่า 🧐
SECRET!! !!!! น่าสนใจๆ 🤔

งั้น Dump เฉพาะในส่วนของ notepad ออกมาละกัน ก่อนอื่นต้องรู้หมายเลข PID ของ Notepad ก่อน ซื่งจะอยู่ในขั้นตอนก่อนหน้าที่ได้ทำการลิสต์ process ซึ่งก็คือ 2892
$ volatility -f memdump.mem --profile=Win7SP1x64 memdump -p 2892 --dump-dir .

ไฟล์ลองค้นด้วยชื่อไฟล์ที่เราเจอจากขั้นตอนก่อนหน้าซิ (SECRET!!.txt) 🧐
เอ๊ะ SeCrEtHeRe แพทเทิร์นคุ้นๆแฮะ 🤔 ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชุดด้วยกัน

จะเห็นได้ว่ามันคือ Url escape (encode) นั่นเอง แต่จะสังเกตได้ว่า ค่าแรกสุด % จะหายไป ซึ่งก็แค่เติมลงไปให้เรียบร้อย แล้วไปทำการ unescape/decode ให้เรียบร้อย

หลังจากการทำ Url unescape เราก็จะได้ค่าเลขฐานสองมา ซึ่งจะเห็นได้ว่า 2 ชุดแรกค่าเหมือนกัน งั้นเราก็จะโฟกัสแค่ค่าแรกพอ อันหลังไม่ใช่แน่นอน (ขออนุญาตรวบรัด 🤣)

ให้เราไปทำการแปลงให้เป็น string ซึ่งจะได้ผลลัพท์ทีเป็น Base64 ออกมา c2hvcnR1cmwuYXQvaXRHVTI=

ให้ทำการ Decode Base64 จะได้เป็นลิงค์อันนึงออกมา
$ echo c2hvcnR1cmwuYXQvaXRHVTI= | base64 -d

ลองเอาไปเช็คก่อนซิว่าลิงค์จริงๆคืออะไร แอบฝังอะไรมาให้หรือเปล่า 😆

เอ๊ะ ไฟล์ Flag.zip 🤔
ให้ทำการโหลดมาโลด ว่าแต่คิดว่าจะเปิดดู Flag ได้เลยมั้ย?
แน่นอนว่า.. ไม่มีทาง!! 🤣

ลองแตกไฟล์ดูซิ
แน่นอนว่าติดรหัสผ่าน 😂

รหัสแตกไฟล์อยู่ไหนนนนนน 😭
งั้นลอง grep notepad dump file ดูเลยแล้วกัน เริ่มง่ายๆที่
pass, password, P@ssw0rd … ไม่เจอ 😢

งั้นลองใช้ Grep with regex ซิ
$ strings 2892.dmp| grep -i -P "^P@.?.?.?.?.?d"
เย่! P@S5w0rDH3rE มันต้องเป็นรหัสแตกไฟล์แน่ๆ !!!

ไหนลองแตกไฟล์ซิ ใช่รหัส P@S5w0rDH3rE มั้ยนะ 🤔
ก็ยังไม่ใช่ … 😢

ไปคุ้ยใน raw เลยละกัน ลอง Search ด้วยคำที่ได้มาเมื่อกี้ดู
เอ๊ะ Magic Bytes คุ้นๆแฮะ 🤔

แน่นอนว่ามันคือ Magic Bytes ของไฟล์ JPEG ทีนี้จะรู้ได้ไงว่าตั้งแต่ตรงไหนถึงตรงไหน?
ก็เลื่อนดูไปเรื่อยๆไงล่ะ 😂
เห็นอะไรมั้ยครับ?

จะเห็นว่าเมื่อเลื่อนไปเรื่อยๆ จะมีข้อมูลอีกชุดที่ดูแล้วไม่น่าใช่ข้อมูลของรูปแน่ๆ FixedButton อะไรไม่รู้ 😵
ดังนั้นเราจึงเอาเฉพาะแค่ตรง offset ประมาณ 0C992400 ถึงประมาณ 0C992EC0

ไหนมาเช็ค Magic Bytes ดูอีกรอบซิว่าถูกต้องหรือเปล่า 🧐

ไฟล์รูปภาพที่ได้มา จะเห็นว่ามีข้อความอยู่ด้านใน และแน่นอนว่ามันคือรหัสผ่านสำหรับการแตกไฟล์
38nVw%Z_#jdtZ>M?

ทำการแตกไฟล์ด้วยรหัสผ่านที่ได้มาจากรูปในขั้นตอนก่อนหน้า

ได้ Flag มาแล้วจ้าาาา
THCTF{@!Th1S_ls_A-f1Ag!@}

จอบอ. 😁

Thailand CTF 2019 – In the Picture (Write-up)

ในข้อนี้โจทย์มีชื่อว่า In the picture สามารถดาวน์โหลดโจทย์ได้ที่ลิงค์นี้ >>> In the picture.zip

Ps. ขออภัยด้วย Flag ไม่ได้เรียงกันนะครับ 😅

ทำการแตกไฟล์ In the picture.zip
เมื่อทำการแตกไฟล์ออกมา จะได้รูปภาพมา 1 รูป …

ลองเข้าไปส่องข้างในดูหน่อยซิ 🧐
เมื่อใช้คำสั่ง binwalk ส่องดูข้างใน จะพบว่ารูปภาพโดนยัดไฟล์ rar เข้ามา

ให้ทำการดึงไฟล์ rar ออกมาโดยใช้คำสั่ง binwalk -e Question.jpeg เราก็จะได้ไฟล์ rar ที่ต้องการออกมา

ไหนลอง extract ดูซิ …
ติด password จ้าาา ☹️

ลองไปส่งไฟล์รูปอีกทีซิ รอบนี้ใช้คำสั่ง strings Question.jpeg เพื่อดูว่ามีการแอบยัดข้อความอะไรมาหรือเปล่า
แล้วก็โป๊ะเชะ!! DPa$$w0rd:SheepInTheBigCity 😍

นำรหัสผ่านที่ได้เมื่อกี้ไปแตกไฟล์โลด 😁
จะได้ไฟล์ออกมาอีก 3 ไฟล์ (ยังไม่จบอีก 😢)

ลองเช็คไฟล์ทั้ง 3 ไฟล์ซิ ว่าเนื้อแท้มันคือไฟล์อะไร
จะเห็นว่าไฟล์แรกเป็นไฟล์รูป (.jpg) ไฟล์ที่สองเป็นไฟล์เสียง (.wav) ส่วนไฟล์สุดท้ายเป็น data ไว้เดี๋ยวมาเช็คกันอีกที … 😅

ก่อนอื่นทำการเปลี่ยนนามสกุลให้ 2 ไฟล์แรกก่อน hint1.zip เป็น hint1.jpg และ hint2.zip เป็น hint2.wav
ลองส่องไฟล์ hint3.zip จะพบว่าส่วน header มีคำว่า NG !!!
และแน่นอนครับ มันคือไฟล์รูปภาพ 😄

ให้เราไปแก้ค่า Hex โดยการเพิ่ม 89 50 ไป offset แรกสุด

เปลี่ยนนามสกุลไฟล์ให้เป็น .png ซะ

รูปภาพที่ได้ … 🧐

ทีนี้กลับมาดู hint2 ลองแมวมาดูหน่อยซิ 🧐

Nothing …

งั้นโยนเข้า Audacity หน่อยเป็นไง 😅
เอ๊ะ… Morse Code แน่ๆ 🤔

และแน่นอนมันคือ Morse Code เมื่อทำการ Translate ออกมาจะได้คำว่า PLAYSOME

ส่วน hint1 นั้น ..

ลองแมวดูซิ เห็นอะไรแว๊บๆ 🧐 🤔

ถ้าดูดีๆมีเครื่องหมาย { ก็น่าจะเป็น ROT13 แน่ๆ งั้น decode โลด
จะได้คำว่า TH{lets ออกมา

เมื่อเอาคำใบ้ทั้ง 3 คำมารวมกันก็จะได้ Flag ออกมา
TH{letsPLAYSOME_CtF!$} เอาไปแก้ format ให้ถูกต้องเป็นอันเรียบร้อย

จอบอ. 😁

Thailand CTF 2019 – Android (Write-up)

ในข้อนี้โจทย์มีชื่อว่า Android สามารถดาวน์โหลดโจทย์ได้ที่ลิงค์นี้ >>> Android.zip

ขั้นแรกให้ทำการแตกไฟล์ออกมาก่อน โดยใช้คำสั่ง unzip Android.zip จะได้โฟลเดอร์ Android_ ออกมา
โดยข้างในโฟลเดอร์ก็จะพบอยู่ 3 ไฟล์ ได้แก่ android.zip (password protected), .git และ README.md

จุดที่น่าสนใจคือ .git ทำให้ทราบได้ว่าใช้ version control ซึ่งจะเก็บประวัติในการแก้ไขโค้ดของเรา อ่านเพิ่มเติมคลิกที่นี่

ให้เราทำการรันคำสั่ง git log เพื่อดูประวัติการ Commit เพราะโดยปกติแล้ว แต่ละครั้งเมื่อเราทำการ Commit จะมีการใส่ Comment ไว้ด้วย เพื่อที่จะได้ทราบว่าเราได้ทำอะไรไปบ้าง

จุดที่น่าสนใจมีอยู่ 2 commit คือ
update (สนใจก่อนการ delete key) : 33d78b5cbb94854ff228172e7dd0159564157655
delete website : 20929d7d0ff6d4fc99fdc25d6196f80f49d0582b

Checkout #1

ทำการรันคำสั่ง git checkout 33d78b5cbb94854ff228172e7dd0159564157655 เพื่อทำการย้อนกลับไปก่อนมีการ delete key

เมื่อทำการเรียกดูรายชื่อไฟล์ จะพบว่ามีไฟล์ aws_s3.key โผล่ขึ้นมา

เมื่อทำการดูไฟล์ข้างใน จะพบค่าค่านึง อันนี้ขอรวบลัดเลยละกัน ไม่ต้องไปรันใน aws console หรือเขียน api ให้ยุ่งยาก เพราะจริงๆมันคือค่า hex นี่เอง

เมื่อทำการ decode ก็จะได้ค่าดังนี้ Th@iL@nDCTF2Ol9

เมื่อนำรหัสที่ได้มาแตกไฟล์ android.zip ปรากฏว่ารหัสผิด 😢

Checkout #2

คราวนี้เรามาดูอีก Commit ที่เกี่ยวกับ Website อะไรสักอย่าง เช่นเดิมครับ ให้รันคำสั่ง git checkout 20929d7d0ff6d4fc99fdc25d6196f80f49d0582b เพื่อย้อนกลับไปก่อนการลบ website

จะเห็นว่ามีโฟลเดอร์ web โผล่ขึ้นมา

เมื่อเข้าไปดูในโฟลเดอร์ web จะพบไฟล์ index.html ให้เราทำการเปิดไฟล์ครับ เพื่ออ่าน source code ด้านใน

เห็นอะไรมั้ยครับ 😏

คล้ายๆอันแรกเลย จากค่า aws_access_key_id และ aws_secret_access_key ให้เราทำการ decode ออกมาครับ อันนี้แล้วแต่ความสะดวกเลย ส่วนตัวผมใช้ perl script ครับ

เมื่อ decode ออกมาก็จะได้ค่าดังนี้ Th@iLanDCTF2Ol9_P@ssCode

นำมาเป็นรหัสแตกไฟล์ android.zip ครับ ถูกต้องสักที เย้ 😄

รวบรัดอีกแล้ว 😆 ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ โจทย์นี้คือจะให้เราทำการ Crack Android Pattern ครับ

รันคำสั่งเพื่อค้นการไฟล์ gesture.key โลดครับ จะใช้คำสั่งใน linux (find,grep) หรือถ้าใช้ Windows ก็ search ผ่าน Explorer ได้เลยครับ

ข้อดีของโจทย์นี้คือ จะมี Script สำหรับ Crack Pattern มาให้แล้ว ตามผลลัพท์ที่ 2 ครับ

รันสคริปต์ aplc.py เพื่อทำการ Crack Pattern โลดครับ 😄

$ data/data/com.android.crackkey/androidpatternlock/aplc.py data/system/gesture.key

เท่านี้เราก็จะได้ Flag ออกมา 😎
THCTF{6304852}

จอบอ. 😁

Thailand CTF 2018 – My password collection (Write-up)

ในข้อนี้โจทย์มีชื่อว่า My password collection สามารถดาวน์โหลดโจทย์ได้ที่ลิงค์นี้ >>> disk.zip

ขั้นแรกให้ทำการแตกไฟล์ออกมาก่อน โดยใช้คำสั่ง unzip disk.zip จะได้ไฟล์ disk.dd ออกมา

ลองเช็คประเภทของไฟล์ดูก่อน โดยใช้คำสั่ง file disk.dd
จะเห็นได้ว่า Partition เป็น MSDOS ซึ่งจากประสบการณ์ ใช้ 7Zip แตกไฟล์ในคอมพิวเตอร์โดยตรงเลยง่ายกว่า 555+

เมื่อแตกไฟล์ใน Windows ด้วย 7Zip ก็จะได้ไฟล์ประมาณนี้

ไฟล์ข้างในแต่ละ Folder ก็จะได้ประมาณนี้

ทำการไล่เช็คประเภทของไฟล์ใน Document (เนื่องจากไม่มี .extension ทำให้ไม่ทราบได้ว่าเป็นไฟล์ประเภทอะไร)
โดยใช้คำสั่ง for f in Documents/*; do file $f; done

จะเห็นได้ว่าน่าสนใจทุกไฟล์เลย 55+ แต่เราจะทำการเช็ค 2 ไฟล์กันก่อน คือไฟล์ g ที่เป็นไฟล์ pdf และไฟล์ w ที่เป็น textfile
เมื่อดูข้อมูลใน textfile จะพบข้อความ VyAtMzAwClAgMApSIDI= ซึ่งแน่นอนว่ามันคือ base64 หลังจาก decode ก็จะได้ผลลัพธ์ตามรูปด้านบน

กลับไปดูอีกไฟล์ที่เป็น pdf ซึ่งจริงๆมันเป็นคำใบ้ในการเอา key ในขั้นต่อไป (จำรูปภาพ และ filters ด้านล่างไว้ให้ดีๆ 😁)

ไปดูที่อีกโฟลเดอร์บ้าง ในโฟลเดอร์ Pictures นั่นเอง เห็นอะไรแปลกๆมั้ยครับ 🙃

ใช่เลยครับ รูปแรกนี่แหละ เมื่อลองเปิดรูปดู จะเห็นว่าเหมือนมีข้อความโดนหมุนเป็นเกลียวอยู่!

จำไฟล์ pdf ที่เปิดก่อนหน้าได้ไหมครับ นั่นแหละ! มันคือคำใบ้!! อ้อ textfile อักอัน
ก่อนอื่นให้เปิดรูปด้วย Gimp ก่อนครับ จากนั้นไปที่ Filters → Distorts → Whirl and Pinch เพื่อจะทำการหมุนภาพกลับ
ซึ่งไม่ต้องไปงมให้เมื่อยว่าแต่ละค่าต้องหมุนไปที่เท่าไหร่ เพราะมันบอกไว้แล้วใน textfile ที่เป็น base64
จะได้ 4XAktWZ3tH7AHsO9

กลับไปดูใน Documents อีกรอบ จะเห็นว่าเหลืออีก 2 ไฟล์คือ f: openssl และไฟล์ p: Keepass
โดยไฟล์ f เป็น Encryption file แล้วจะแกะยังไง ในเมื่อไม่มี passphase 😂

งั้นกลับไปดูอีกไฟล์กันก่อน อันนี้ยอมรับว่าไม่รู้จัก เท่าที่ไปถามอากู๋มา ได้ความว่าเป็น Password Management ซึ่งส่วนตัวรู้จักแค่ Dashlane, 1Password และ Lastpass 555+
ทำการโหลด Keepass แล้วเปิดไฟล์ p โลดดดด ซึ่งจะเจอหน้าถามหา Master Password = =”
ลองเอา key ที่ถอดมาได้จากรูปภาพใส่ดู แล้วก็โป๊ะเชะ!

ด้วยความที่ไม่เคยใช้ ก็เลยลองเอาเมาส์ไปชี้เล่นๆดู เอ๊ะตรงนี้คืออัลไล (,__,  )a เก็บไว้ก่อน

ลองดับเบิลคลิกเข้าไปดูใน Text file ซะหน่อย จะเห็นว่าตรงช่อง Notes: มันว่างๆเหมือนไม่มีอะไร แต่ทำไมมันยาวววววว 😶
เมื่อเลื่อนไปดูล่างสุด เหมือนจะเจอ key อีกแล้ว แต่มันไม่ใช่ flag !!!
UzE0f6Sb2ZvUtvsD

ตอนนี้ใน Documents ก็เหลือไฟล์เดียวแล้ว คือไฟล์ f: openssl
จากที่บอกข้างต้นว่ามันเป็น Encryption data ต้องใช้ key ในการ Decryption ซึ่งแน่นอนเหลือ key เดียวแล้วที่ยังไม่ได้ใช้ และเพิ่งแกะออกมาได้

ซึ่งในการ Decryption ต้องรู้ก่อนว่าใช้ Algorithm อะไร และแน่นอนว่ามันคือ AES-256-CBC ที่โจทย์ได้ทำการใบ้ไว้ใน Keepass
เมื่อทำการ Decrypt แล้วก็จะได้ Flag ออกมา 😎

THCTF{Uu5AzrJD3mMKDG0z}

จอบอ. 😁

Pixel (RGB) – game.rop.sh & I-SECURE CTF

Ref: https://twitter.com/sornram9254/status/770222358179278848

ไม่ใช่ Write-up ละเอียดๆเท่าไหร่นะครับ
เพราะผมเองก็เพิ่งเข้าใจเหมือนกัน
ตอนแรกก็งงว่าโจทย์อะไร มีแต่ตัวเลขเป็นหมื่นๆบรรทัด ถถถถ+

ต้นคลิปเกือบจะพูด game-rop-dot-org แล้ว ถถถ+

Images and Pixels
https://processing.org/tutorials/pixels/

Fanpage : http://fb.me/sornram9254Fan
Facebook : http://fb.me/sornram9254
https://blog.sornram9254.com

Answer:How do I find vulnerabilities in software?

Target

First you need to choose a platform and a piece of software to attack. To begin I would choose something that is open source. There are several advantages to this; the main one being that you can look at the source code. You then need to pick an aspect that you would like to attack. For example, maybe you want to attack the UDP implementation of the Linux networking stack.

Performing an analysis on a closed source piece of software means you’re disassembling the binary, rooting through instructions, and debugging the process. This is long and tedious. Better to get a grasp as to what breaks code with source code before you go looking for it in disassembly.

By being specific in your target allows you to systematically analyze a piece of software.

Analyze

With your target in mind begin your analysis of the portion of the software you want to find vulnerabilities.

  • Determine which source code files affect your target.
  • With open source you can insert debug messages to ensure you understand the code flow. This can be extremely important. Knowing what sections of code are called, and the variables that lead to that outcome is key in understanding what is going on.
  • Run code analysis tools over the project. Depending on the project this might be a moot point, but they can be handy and catch common programming errors.
  • Enable all of the compiler build flags. Your goal is to find programming errors. What better way than to have the compiler tell you where it thinks the code is bad.

These are just a few of the things you can do to analyze the software. Build a list of possible coding errors.

Triggering

Now with a list of possible coding flaws you need to determine if you can trigger them. Again, debug messages will help you. Go back to the source code and determine what exactly needs to happen for each coding flaw to break the software. You’re not looking for full exploitation, you just want the code to crash, or do something unexpected. You need to determine what could trigger a coding flaw. This could be anything from affecting a length variable, tricking a function to take a path to process data incorrectly, etc. Some coding flaws just aren’t triggerable, but that’s the nature of vulnerability analysis.

At this point you have a list of flaws, and a list of ideas for each flaw on what might trigger it to do something unexpected.

Fuzzing

Now you write code. Using pretty much whatever programming language is convenient for the software you’re attacking. You could write Python code to throw specific packets at network devices to attempt to take down the UDP implementation of a Linux based device.

The goal is to implement your triggers, and hope that the code works the way you think. Your debug messages will be helpful here.

  • They can tell you if the code path taken is abnormal.
  • They can show you variables that you’re attempting to manipulate
  • They ensure that your trigger is doing what you expect, and you can adjust it accordingly.

With any luck you’re able to cause something different to happen. Maybe that can lead to code execution, maybe not. That’s a horse of a different color.

Reality

Vulnerability analysis takes time. A lot of time. You’re not going to spend a day analyzing software and find 10 vulnerabilities. The unofficial average for vulnerability analysis is 1 vulnerability per 3 months of analysis. You can double that time if you’re analyzing a non-open source project.

via @RoraΖ : http://security.stackexchange.com/a/92003?stw=2

ป้องกัน Ransomware เบื้องต้น

อ้างอิงจาก : เล่าสู่กันฟัง แนวโน้ม เครื่องที่มีโอกาสโดน Virus เรียกค่าไถ่ cryptowall – Pantip

มาแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดๆหน่อยๆนะครับ หลังเคยลองเล่นๆกับเจ้าตัวนี้ใน lab vm อยู่แป๊บนึง

การป้องกันก็อย่าง จขกท. ว่าเลยครับ
หลักๆก็คือ

– AV ลงไว้เถอะครับ ยิ่งเป็น Internet Security หรือพวก Total Security ยิ่งดี
– ยิ่งถ้ามีโปรแกรมเฉพาะทางเช่น Malwarebytes ลงไว้บ้างก็ดี
(แต่ลงแค่ AV กับพวกโปรแกรม anti เฉพาะทาง แค่ 2 ตัวนี้ก็พอแล้ว เดี๋ยวเต่าจะเรียกพี่ ฮ่าาา)
– หมั่น Update AV บ่อยๆ
“อย่า” คลิกลิงค์ หรือเปิดอะไรมั่วซั่ว
ติดตั้งโปรแกรมอะไร อ่านดีๆ อ่านเงื่อนไขมันให้ดีๆ
– เปิดให้โชว์ file extension ไว้บ้างก็ดี กันโดนหลอกนามสกุลไฟล์

ถ้าใครที่กลัว ไม่ชัวร์ว่าจะกันได้หรือไม่    “แนะนำ” ให้เปิดใช้งาน “previous versions”

แต่ก็ไม่ได้กันได้ชัวร์ๆนะครับ เท่าที่เคยอ่านคนที่เคยโดน มันแพร่ทาง Network ได้
ถ้าใครรู้ตัวว่าโดน ถ้าพิมพ์งานหรือทำงานอยู่ รีบ save (ถ้าจำเป็นจริงๆ)
แล้วรีบถอด external storage ออกให้หมดครับ ตัดการเชื่อมต่อ Network ให้หมด (ถ้า lan ถึงสายไปเลย)
เพราะมันสามารถแพร่กระจายไปยังเครื่องอื่นๆ ใน Network ของเราได้
ลักษณะการทำงานของมันคือ มันจะค่อยๆทำการ Search ไฟล์ในเครื่องแล้วก็สอยไฟล์เราไปเรื่อยๆ
ถ้า Save งานหรือถอด external storage ต่างๆหมดแล้ว force shutdown ไปเลยครับ
ที่ให้ force คือ ถ้า normal shutdown ไม่น่าจะทัน หรือบางทีอาจโดนฝังคำสั่งอะไรไว้ตอนปิดเครื่องก็ได้
แล้วก็เข้า safe mode ไปจัดการมันให้สิ้นซากครับ วิธีก็หาได้ตาม gg
ส่วนมากมันก็ไปฝังอยู่ตาม startup หรือฝังเป็น service เครื่อง บลาๆ

ไม่ใช่แค่เพื่อป้องกัน cryptowall อย่างเดียวนะครับ แต่ทุกตัวเลย
หัดทำไว้ให้ชิน เพื่อความปลอดภัยต่อเครื่องคอมพิวเตอร์และข้อมูลของท่านเอง ^___^
AV = Anti Virus ครับ ไม่ใช่ Adult Video T_______T

=================================================================

อ้างอิงเพิ่มเติมจาก : SL7205(InvCrt)

ransomware สมัยนี้เยอะมากครับ แล้วก็บอกด้วยนะครับว่าตอนนี้ cryptolocker ตายไปแล้วนะครับ ทางการสั่งระงับ server ทั้งหมดไปแล้วดังนั้นใครเจอ ransomware บอกว่าเป็น cryptolocker มันคือของก็อปนะครับ
คนที่โดน Cryptolocker สามารถลองหา key ที่เว็บนี้ได้ (เป็นรายการคีย์ที่ได้จากการยึด server) https://www.decryptcryptolocker.com/  (decommissioned)

พวกที่มีสิทธิเจออีกก็เช่น (ที่บอกคือชื่อมัลแวร์กับ encryption method ที่ใช้นะครับ ถ้ากู้ได้จะบอกกู้ได้)

CTB-locker/critoni ใช้ ECDH encryption ไฟล์จะถูกเปลี่ยนนามสกุลเป็น .CTB .CTB2 หรือมั่วๆ 7 ตัว
http://www.bleepingcomputer.com/virus-removal/ctb-locker-ransomware-information

CryptoDefense ใช้ RSA-2048 มีสิทธิกู้ได้ 50/50
http://www.bleepingcomputer.com/virus-removal/cryptodefense-ransomware-information

CoinLocker ใช้ Ceasar Cipher ไฟล์จะถูกเปลี่ยนนามสกุลเป็น .encrypted กู้ได้
http://www.bleepingcomputer.com/forums/t/565557/coin-locker-a-ransomware-that-tips-its-hat-to-julius-caesar/

Cryptowall ใช้ RSA-2048
http://www.bleepingcomputer.com/virus-removal/cryptowall-ransomware-information

TorrentLocker ใช้ AES ไฟล์จะถูกเพิ่มนามสกุล .encrypted
http://www.bleepingcomputer.com/virus-removal/torrentlocker-cryptolocker-ransomware-information

CoinVault ใช้ AES
http://www.bleepingcomputer.com/virus-removal/coinvault-ransomware-information

BUYUNLOCKCODE (อันที่ติดผ่านเน็ต TOT ตอนนั้น) ใช้ RSA/AES ไฟล์จะถูกเพิ่มนามสกุล .encoded.รหัสประจำเครื่อง
http://www.bleepingcomputer.com/forums/t/561732/buyunlockcode-ransomware-detected-in-the-wild/

จริงๆมีอีกเยอะครับแต่ลองไปหาเอาเองนะครับ

 

========================================================================

Update 15 June 2017

ทางด้านคุณ Sophie Hunt ได้เมลมาแจ้งว่า โครงการบางตัวได้ล้มเลิกไปแล้ว

แต่ได้แนะนำช่องทางในการอัพเดทการแก้ปัญหาเมื่อโดน Ransomware มาให้

สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยครับ

       The Ransomware Removal Handbook: Dealing with common strains of ransomware
    https://www.comparitech.com/blog/information-security/ransomware-removal-handbook/