สิ่งที่ควรทำหลังลง Windows (เถื่อน) :P

ประสบการณ์การฝึกงาน ณ. มจพ

โดยปรกติแล้ว นักศึกษาที่เรียนสายอาชีวะ จะต้องมีการฝึกงาน ส่วนระยะเวลาการฝึกก็แล้วแต่ละสถาศึกษา
โดยกำหนดการฝึกงานก็ 5 เดือน (เอาเข้าจริง ผมย้ายมารอตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์แล้วครับ มาหางานทำไปพลางๆก่อน ฮ่าๆ)
ขณะนั้นผมศึกษาอยู่ สาขาวิชาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สาขางานเทคนิคคอมพิวเตอร์ แผนกช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา” ซึ่งเป็นสาขาที่แยกตัวออกมาจากแผนกอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นการเรียนก็จะคล้ายๆสาขาไฟฟ้า+อิเล็กทรอนิกส์
และก็ตามปรกติของนักศึกษา ช่วงก่อนฝึกงาน สิ่งที่เครียดกันมากที่สุดก็คือ .. “การหาที่ฝึกงาน” (,__,  )
เพราะกว่าจะได้ที่ฝึกงาน เราก็ต้องเสนอที่ฝึกงานแก่อาจารย์ที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องฝึกงานให้เขาตัดสินใจก่อน
ว่าที่นั้นเหมาะหรือเปล่า งานที่ทำเกี่ยวข้องกับสาขาที่เราเรียนหรือเปล่า บางคนกว่าจะหาที่ฝึกงานได้ ก็แทบแย่ 😞
เพื่อนๆผมส่วนมากก็ฝึกงานแถวๆบ้านบ้าง ศูนย์การค้าอยุธยาพาร์คบ้าง ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตบ้าง หรือไม่ก็เซียรรังสิต
ส่วนผม … ไปฝึกซะไกลเลย 😂 ผมได้ไปฝึกงานที่ “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ” จากคำแนะนำของรุ่นพี่ผมคนหนึ่ง แต่กว่าจะได้ไปฝึกก็ใช่ว่าจะไปได้ง่ายๆนะ 5555
คนที่เป็นธุระเรื่องฝึกงานให้ เป็น อ.สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งในอยุธยานี่แหละ และเป็นศิษย์เก่า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มจพ. อีกด้วย รู้สึก อ. ท่านจบครุศาสตร์ฯวิศวกรรมเครื่องกลมา(มั้ง)นะ 😶
ก่อนได้มาฝึกงาน อ. ท่านจะให้ไปเรียนพิเศษกับท่านก่อน เป็นวิชาคณิต ให้ชีทมาเล่มนึง ให้ทำให้หมดเล่ม ถ้าไม่หมดเล่ม ก็อดไปฝึกงาน T____T
ไปเรียนกับ อ. แกวันแรก แทบอยากจะเขวี้ยงชีททิ้ง 😂 อะไรก็ไม่รู้ มึนตึ๊บ 5555 แต่ท้ายแล้วผมก็ผ่านมาได้ 😁

เมื่อผมได้มาฝึกงานที่นี่ มันทำให้ผมต้องปรับตัวเองในหลายๆอย่างเมื่อไปอยู่ที่นั่น เพราะต้องย้ายไปอยู่ที่ กทม. เนื่องจากถ้าผมนั่นไปกลับ อยุธยา-กทม. ค่ารถแพงมาก รายจ่ายก็ประมาณนี้

ค่ารรถ จาก อยุธยา(นครหลวง) – อนุสาวรีย์ชัยฯ – 100บ.
ค่ารถ ปอ.97(อนุสาวรีย์ชัย) – มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ – 10บ.(ตอนนี้ 13บ.แล้ว)
ค่าอาหาร – 30บ.

รวมทั้งสิ้นไปกลับวันนึงก็ (100×2)+(10×2)+30 = 250 =.=”

แต่ก็มีคนแนะนำว่า “ทำไมไม่นั่งรถไฟไปล่ะมึงเอ๊ยย!” ความจริงก็อยากอยู่หรอกครับ แต่รถแถวย้านผมน่ะสิ รถอยุธยา-ท่าเรือ(ดงหวาย) รอนานมว๊ากกก –* แค่คันแรกก็ไม่ทันแล้วครับ คันแรก 7 โมง ถึงตัวเมืองอยุธยาก็เกือบ 8 โมง และกว่าจะไป กทม อีก .. .
ผมเลยตัดสินใจไปเช่าหออยู่ ได้แถวบางโพ ซ.ประชานฤมิตร(กรุงเทพฯ-นนท์ 5) หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ถนนสายไม้” ค่าหอแค่ 1500 รวมค่าเน็ต ค่ากิน ค่ารถฯลฯ ทั้งหมดก็ตกแค่เดือนละไม่เกิน 3,000 แต่ถ้าผมอยู่อยุธยาและนั่งรถไปกลับ
เฉลี่ยตกเดือนละ 250×22= 5,500บ. *0*

ไปอยู่ไม่นานก็ได้เรื่องเลย 55 เนื่องจากซอยที่ผมไปอยู่ ช่วงหน้าซอยมี 7-11 อยู่ ช่วงที่ผมกลับจากการฝึกงาน บังเอิ๊นไปเดินชนสาวอาชีวะคนนึง เพราะแกเล่นยืนเต็มทางเดินเลย พยายามหลบแต่ก็ไม่พ้น 😂
แต่ก็ได้ยินเสียงด่าตามหลังมา เป็นเสียงผู้ชาย เหมือนว่าจะโดนด่าแฮะ (,__,  ) แต่วันรุ่งขึ้นก็มีแก๊งค์วัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาหาเรื่อง ผมไม่รู้นะว่าเป็นพวกเดียวกับไอ้คนเมื่อวา่นที่เดินไปชนแฟนมันหรือเปล่า
ไปอาทิตย์แรกก็โดนไล่ตีซะและ 55 แต่ซอยผมอยู่ไกล้ครับ ห่างจากเซเว่นไม่ไกล เลยหนีทัน -_-” แล้วมันก็ตามหลอกหลอนอยู่นาน จนมารู้ว่า เป็นนักศึกษาของสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งแถวๆพระราม 7 นี่แหละ เลยได้อริโดยไม่ได้ตั้งใจ 😂

อยู่ที่นั่นก็เฉียดตายหลายรอบมาก ยิ่งบางวันฝนตกหนัก ไม่มีเสื้อขาวใส่ก็ต้องใส่เสื้อช็อป(ปรกติเด็กสายช่างเวลาฝึกงานก็ใส่ช็อปกันเป็นปรกติ)
ถ้ายังจำกันได้ ที่มีข่าวนักศึกษาสถาบันหนึ่ง ที่ไปรุมทำร้ายสถาบันอริ ที่เอาหินไปรุมปารถเมย์ วันนั้นไปซื้อของ ก็ไม่รู้ว่ารถมันติดอะไร แต่ดันใส่เสื้อช็อปไปเนี่ยสิ (,__,  )
ตั้งแต่นั้นผมเลยต้องมีอาวุธติดตัวไว้ตลอด ปรกติพกแค่คัตเตอร์(จริงๆไม่ได้เอาไว้ทำอะไรใครหรอก ไว้เหลาดินสอเฉยๆ 555 คือเป็นคนไม่ใช้กบเหลาดินสอมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว)และก็มีกระบองเหล็กยืดหดอีกอัน เอาไว้ป้องกันตัวยามฉุกเฉิน

ถ้าพูดถึงเรื่องรถโดยสารต่างๆ ต้องยอมรับเลยว่า รถ ปอ. ยูโรทู (หรือรถอะไรก็ตามแต่ที่ติดแอร์) มารยาทในการขับรถข้อนข้างดี ผิดกับรถแดง ที่มันขับแบบ .. บางคันเหมือนพาไปตายอ่ะ ยิ่งรถฟรียิ่งแล้ว 😂 (ตอนนี้ยูโรทูสาย 97 เลิกวิ่งไปแล้ว)

ฝึกงานที่นู่นผมมักจะเจอพี่ๆที่เรียนที่นั่นบ่อยมาก การทำงานบางครั้งก็ต้องทำในขณะที่พี่ๆเขาเรียนอยู่ แต่ก็ดีอย่าง เพราะบางที่ พอทำงานเสร็จ ผมก็นั่งฟังนั่งเรียนไปกับพี่ๆเขาด้วยเลย รู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง 5555555
และมีพี่ๆบางคน ชอบมาแซวผมอยู่เรื่อยเลย แรกๆก็ไม่ชอบนะ นานๆไปมันก็ชินและ พี่แกจะแซวไรก็ปล่อยแกไปเห๊อะ 555555

การฝึกงานที่ มจพ. ส่วนมากก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็ซ่อมคอมฯ เดินสาย Lan แล้วก็ช่วยงานพี่ๆที่คณะแค่นั้น แต่ที่มันหนักก็เป็นงานที่ 7-11 นี่แหละครับ ลำพังแค่ฝึกงานอย่างเดียว หรือทำ 7-11 อย่างเดียวมันไม่เท่าไหร่หรอกครับ
แต่ทำสองอย่างเลยนี่สิ เฮ้อ 😂 มันก็ค่อนข้างเหนื่อยพอควร เพราะเลิกฝึกงานก็ 2 ทุ่ม (เเลิกงาน 5 โมง ทำโอต่อยัน 2 ทุ่ม) และก็ไปทำ 7-11 ต่อ ยัน 22.00น. ช่วงที่พนักงานน้อยๆต้องทำยัง 00.00น. แต่ปรกติของ 7-11 ถ้าทำงานที่เรารับผิดชอบไม่เสร็จ ก็ต้องทำต่อให้เสร็จ บางวันลากยาวยันตี 1-2 T___T

การทำงาน 7-11 ได้ให้อะไรผมหลายๆอย่าง ที่สำคัญที่สุดก็คือ “เพื่อน” เพราะไปอยู่ที่นั่นแทบไม่มีเพื่อนเลย จะมีก็แค่เพื่อนช่างกลโรงงานที่ไปฝึกที่เดียวกัน และเพื่อนที่นนท์ เรียนอยู่พณิชยการสยาม แต่ก็ไม่ค่อยเจอกันเท่าไหร่ แต่ยังได้เจอกันบ้าง ส่วนเพื่อนที่วิทยาลัยไม่ได้เจอกันเลยจนกว่าจะฝึกงานเสร็จ (,__,  )
แต่การทำงาน 7-11 ก็ทำให้ผมมีความอดทน ตรงต่อเวลา(แต่ก็เข้างานสายอยู่บ่อยๆ 55)

อยู่ไปสักพักผมก็ได้แฟนมาคนนึงนะ มีเด็กมาสมัครงานใหม่ที่ 7-11 ที่ผมทำอยู่ ตอนที่ผมเลิกงาน ระหว่างเดินกลับหอ ก็มีคนตามมา (ในใจนึกว่าไอ้เด็กกลุ่มนั้นมันตามมารังควานกูอีกแล้วไงฟะ 5555) แต่ผิดคลาดครับ กลายเป็นเด็กเซเว่นคนนั้น 😶 เข้ามาจีบและขอเบอร์ผมซะงั้น #ผมนี้งงไปเลย
แต่ว่าคบกันได้ไม่นาน ด้วยการที่ผมเป็นคนที่ไม่เหมือนชาวบ้าน คือถ้าคนที่เราคบเราไม่ได้เป็นคนจีบ มันจะไม่ค่อยมีความผูกพันธ์กันเท่าไหร่ และเขาคงไม่ใช่แน่ๆ อีกอย่างดูๆแล้วก็คงร้ายพอตัว เลยถอยดีกว่า (สรุปตอนเลิกกันแม่งร้ายจริงๆ จะร้องไห้ อิเลว😭)
แต่ก่อนหน้านั้นแฟนเก่าผมก็ขอคืนดี ก็เลยทำให้ถอยออกห่างได้ง่ายขึ้น : D

มาเครียดอีกทีก็ตอนฝึกงานเสร็จครบ 5 เดือนนี่สิครับ เพราะตอนให้คะแนนการฝึกงาน พี่ที่เป็นคนคุมฝึกงานผมดัน ให้คะแนนไม่ได้! งานเข้าล่ะสิทีนี้ 5555 สรุปแล้วต้องให้อาจารย์ที่คณะเป็นคนให้คะแนน
แต่ว่าอาจารย์คนที่ให้คะแนน วันๆนึงแทบไม่เคยเจอผมเลย ผิดกับพี่ๆที่คุมฝึกงานผมที่อยู่ด้วยกันตลอด คะแนนฝึกงานออกมาเลย “ต่ำมากกกกก” อยากจะร้องให้ 😂 เอ๊ะ จริงๆไม่ใช่แค่อยากสิ เพราะวันที่เอาสมุดฝึกงานไปให้ อ. เซน ได้ไปปล่อยโฮที่หน้าห้องภาคไปแล้ว ก็มันกดดันนี่หว่า 5555

ก่อนย้ายกลับอยุธยาก็ได้อริเพิ่มอีก 1 😂 เป็นนักศึกษาอาชีวะแห่งหนึ่งแถวดุสิต วันที่ใส่ช็อปพอดี วันนั้นนั่งรถไปไหนสักที่นี่แหละ ผมก็จำไม่ได้แล้ว มันมาพูดจาแบบดูถูกวิทยาลัยที่ผมเรียน ก็ไม่คิดไรมาก ทำไรไม่ได้เพราะมันมาเยอะ 55 พอจะลงจากรถ ทำเอาท่อแป๊บหรือไม้ก็ไม่รู้ ทำมาเคาะๆราวจับตรงทางลงรถ 🙄
ตอนแรกก็งงว่ารู้ได้ไงว่าผมเรียน วท.อย. เพิ่งมาอ๋อทีหลัง ปรกติผมพกสมุดของวิทยาลัยไว้จดอะไรเรื่อยเปื่อย มันคงเห็นจากสมุดแหละมั้ง
แต่หลังจากกลับมาอยุธยาแล้ว ก็มีคนมาด่ามารังควานใน Facebook ผมอีก คนเดียวกับไอ้คนนั้นเปล่าไม่รู้ 5555 มาด่าประมาณวิทยาลัยมึงกาก 🙄

รวมระยะเวลาตั้งแต่ย้ายมาที่นี่ก็ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงกลางเดือนตุลาคมกันเลยทีเดียว
สิ่งที่ได้จากการไปฝึกงานครั้งนี้ ก็ไม่ได้มีเพียงแค่ “ได้ทำงานในสถานที่จริง” เพียงเท่านั้น แต่ว่า ยังได้ทั้ง “มิตรภาพ” และ “ประสบการณ์”
สุดท้ายนี้ผมก็ขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆที่ฝึกงาน และที่ 7-11 ทุกคนนะครับ สำหรับทุกๆอย่าง :)

ไขปริศนา จดหมายลูกโซ่ “Teresa Fidalgo”

หลายๆท่านอาจเคยได้รับจดหมายลูกโซ่ “Teresa Fidalgo” มาบ้างแล้ว ซึ่งมีเนื้อความว่า

สวัสดี ฉันคือ Teresa Fidalgo. วันนี้ฉันตายครบ 26 ปี, ถ้าคุณไม่ส่งมันต่อไ ป 20 คน ฉันจะไ ปนอนข้างคุณ คืนนี้และตลอดไ ป! ถ้าคุณไม่เชื่อมันหาชื่อฉันในกูเกิ้ลแล้วคุณจะเห็น ‘big man ting..

ผมเองก็โดนเหมือนกันครับ เลยลงมือสืบค้นข้อมูลว่ามันจริงหรือเปล่า จนได้คำตอบดังนี้…

ภาษา โปรตุเกส


Benvindos!O meu nome é David Rebordão e sou o autor e realizador da curta-metragem A CURVA.
Após meses de especulação, recheados de teorias fantásticas sobre o filme A CURVA, eis que surge o momento da revelação.Este sítio foi criado para vos dar a conhecer toda a verdade sobre os factos que deram origem à curta-metragem portuguesa mais vista de sempre.
Apesar de existirem várias versões do filme para download gratuito por todo o mundo cibernáutico, neste sítio podem adquirir a única versão completa com doze minutos de duração em DVD.

O DVD traz também uma entrevista onde procuro relatar todo o processo de criação, as minhas reacções ao alastrar do filme por todo o mundo, aos vários foruns que foram criados para falar do filme, e a todas as histórias que foram criadas a partir da imaginação dos cibernautas.
Revelo ainda a estratégia que esteve por trás da criação do filme, sempre com o objectivo de chamar a atenção do público para os outros projectos que estão a ser desenvolvidos.

Quero fazer cinema para o público; cinema com capacidade de entreter.

Para isso é preciso investimento de capital. A compra deste DVD é um contributo que pode dar para que outros projectos em que estou a trabalhar possam acontecer.
Este sítio, que ainda está em evolução, terá em breve uma área de merchandising do filme (t-shirts, bonés, wallpapers, etc.); bem como uma área de noticias sobre os outros projectos em desenvolvimento (teasers, sinopses, progressos na produção, etc.).

Enquanto não estão disponíveis, se estiver interessado, envie um mail a manifestar o interesse de ser contactado assim que estas áreas estejam disponíveis para [email protected].

É importante que participe no guestbook com os seus comentários para que os futuros investidores dos outros projectos possam perceber o interesse do público português por um novo tipo de cinema.
Espero que em breve possa anunciar novidades sobre os próximos projectos.
Obrigado a todos!

David Rebordão

ภาษา ไทย

ยินดีต้อนรับ

ชื่อของฉันคือดาวิดและ Rebordão น. ผู้เขียนและผู้อำนวยการหนั​​งสั้นโค้ง
หลังจากเดือนของการเก็งกำไรเต็มไปด้วยทฤษฎีที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับหนังของเส้นโค้งที่นี่มาช่วงเวลาของการเปิดเผย

เว็บไซต์ นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คุณได้ทราบความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ ให้สูงขึ้นเพื่อหนังสั้นโปรตุเกสเข้าชมมากที่สุดตลอดกาล
ในขณะที่มีหลายรุ่นของฟิล์มสำหรับ cybernautic ทั่วโลกดาวน์โหลดฟรีไซต์นี้สามารถซื้อเวอร์ชันเต็มสิบสองนาทีเท่านั้นยาวในรูปแบบดีวีดี

DVD นอกจากนี้ยังมีการสัมภาษณ์ที่ผมพยายามบอกกระบวนการคิดสร้างสรรค์ทั้ง ปฏิกิริยากับฟิล์มกระจายอยู่ทั่วโลกของฉันที่ฟอรั่มต่างๆที่มีขึ้นเพื่อพูด คุยเกี่ยวกับหนังและทุกเรื่องราวที่สร้างขึ้นจากจินตนาการของ นักเล่น
ยังเผยกลยุทธ์ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์, เสมอโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดความสนใจของประชาชนในโครงการอื่น ๆ ที่มีการพัฒนา

ฉันทำภาพยนตร์สำหรับโรงภาพยนตร์ที่ประชาชนมีกำลังการผลิตเพื่อความสนุกสนาน

นี้ต้องใช้เงินลงทุน การซื้อดีวีดีนี้มีศักยภาพที่จะร่วมงานกับโครงการอื่น ๆ ที่ฉันกำลังทำงานบนอาจจะเกิดขึ้น
เว็บไซต์ นี้ซึ่งยังคงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเร็ว ๆ นี้จะมีพื้นที่ของการขายสินค้า (เสื้อยืด, หมวก, พื้นหลัง, ฯลฯ .) รวมทั้งเป็นพื้นที่สำหรับข่าวสารเกี่ยวกับโครงการอื่น ๆ ในการพัฒนา (ของเล่น, synopses, ความคืบหน้าใน การผลิตและอื่น ๆ ) ..

ในขณะที่ไม่สามารถใช้ได้ถ้าคุณสนใจส่งอีเมลไปที่แสดงความสนใจในการได้รับการติดต่อเพื่อให้พื้นที่เหล่านี้สามารถใช้ได้สำหรับ [email protected]

มัน เป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าร่วมในสมุดเยี่ยมที่มีความคิดเห็นของคุณเพื่อให้นัก ลงทุนในอนาคตจะเห็นโครงการอื่น ๆ ที่น่าสนใจของประชาชนโปรตุเกสจำแนกตามชนิดใหม่ของโรงภาพยนตร์
ผมหวังว่าเร็ว ๆ นี้ที่จะประกาศข่าวเกี่ยวกับโครงการที่จะเกิดขึ้น
ขอขอบคุณทุกคน!

Rebordão ดาวิด

http://www.acurva.net/index2.php

Written by : sornram9254

วิธีใช้ชีวิตอยู่บนโลก Internet ให้ปลอดภัย 3 ข้อง่ายๆ สำหรับ End-User

หลังจากหลายๆบทความที่โพสไปจะออกแนว Offensive ไปสักหน่อยในบทความนี้เราจะมาพูดถึงวิธีป้องกันในส่วนของ End-user ว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่บนโลก Internet ให้ปลอดภัยได้อย่างไร

ข้อ 1 ไม่เปิด Link, Web, Download ไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น

พวก ไฟล์ Crack ต่างๆมักประกอบไปด้วย Malware  ถ้าถามว่าแล้วจะแก้ยังไง ผมแนะนำให้ใช้โปรแกรมลิขสิทธิ์หรือไม่ก็ Open source ครับถ้าไม่เช่นนั้นคุณก็รับความเสี่ยงไปเต็มๆ
ข้อ 2 หมั่น Update AntiVirus, Operating System, Software ต่างๆที่เราใช้เสมอ จะเห็นจากบทความใน Blog นี้ว่าการโจมตีส่วนใหญ่มักจะเกิดจากช่องโหว่ที่ขาดการ Update แต่ก็ไม่ได้แปลว่า Update แล้วจะป้องกันได้ 100% เพราะมันมีการโจมตีด้วยช่องโหว่ที่ยังไม่ได้เปิดเผยด้วย(zeroday) แต่ก็ปลอดภัยขึ้นมากแล้ว
ข้อ 3 ตั้งรหัสผ่านให้มีความซับซ้อนและแตกต่างกันในแต่ละบริการ ตัวอย่างในการโจมตีนี้จากประสบการณ์ที่ผมไ้ด้ Pentest ระบบแห่งหนึ่งซึ่งมี User 60,000 กว่า user พร้อม password ติด hash ผมใช้เวลาเพียง 24 Hr สามารถ Crack ไปได้มากกว่า 75% ของ User ทั้งหมด(ประมาณเกือบ 50,000 user)  password ส่วนใหญ่ที่ User ตั้งกัน เช่น เบอร์โทร,วันเดียวปีเกิด,เลขบัตรประชาชน,ตั้งรหัสเหมือนกับชื่อผู้ใช้ พบบ่อยมากๆ
เทคนิคง่ายๆในการตั้งรหัสผ่านให้ซับซ้อนคือเวลาเราตั้งรหัสผ่านให้พิมพ์เป็น ภาษาไทยแต่อยู่บน Keyboard ที่กำลังพิมพ์ภาษาอังกฤษ เช่น l;ylfu8iy[ < สวัสดีครับ , ,kpkg:g;jo < มายาเซเว่น จะเห็นว่าเทคนิคง่ายๆแต่ได้รหัสผ่านที่ซับซ้อนมาก แต่ปัญหาที่ผมเจอคือเมื่อเราไปพิมพ์บนโทรศัพท์ทีไร ==” ลำบากโครตๆ และไม่ควร saved password บน browser หรือจดไว้ที่ไหนควรจำไว้เองจะดีที่สุด
ที่มา http://mayaseven.blogspot.com/2011/04/internet-3-end-user.html
#เขียนโดย MaYaSeVeN http://mayaseven.blogspot.com
#อนุญาติให้ Copy ไปโพสที่ไหนก็ได้แต่ต้องแนบเครดิตด้วยนะครับ

ความในใจต่อหนังไทย Suck Seed (By Dr.Pop)

 

 

 

 

 

 

**บทความนี้ไม่ใช่การวิจารณ์หนัง แต่เป็นความเห็นส่วนตัว

คุณสามารถเห็นด้วยหรือไม่ก็ได้ แต่โปรดแสดงความเห็นอย่างสุภาพ ขอบคุณครับ**

 

ป๊อบได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2011 ณ GTH ก่อนวันฉายเกือบอาทิตย์

และนี่คือความรู้สึกทั้งหมดที่อยากบอก ในฐานะคนดูหนังเรื่องหนึ่ง และไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญแต่อย่างใด

 

ขณะ ที่หนังเรื่องหลายๆ เรื่องช่วงมีนาคมเน้นธีมความรักกระจาย แต่ SuckSeed ภายใต้การกำกับของ คุณหมู ชยนพ บุญประกอบ กลับเลือกจะสื่อความรักที่ผสมความเป็นวงดนตรีวัยรุ่น ตั้งแต่เริ่มเรื่องยัน จบเรื่อง คุณจะได้เห็นมุขตลกแบบวัยรุ่น ที่ตลกแบบไม่เสแสร้ง ไม่ยัดเยียด ไม่ฝืนใจคนดู เรียกว่าเป็น “ตลกธรรมชาติ” ซึ่งเรียกเสียงฮาได้ลั่นโรงตามแบบฉบับของหนัง GTH มันมีความตลกทั้งจากบทของมัน จากเสียงประกอบ และที่สำคัญคือมุขตลกจากการกระทำของ ตัวละคร Suckseed เป็นหนังที่เล่นจังหวะกับมุขตลกได้ลงตัวมาก จนทำให้กลายเป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกดีได้ตลอดทั้งเรื่อง

 

 

 

 

 

 

การเสนอมุมมองเรื่องความรักของหนังเรื่องนี้ เน้นไปที่การ “แอบรัก”

 

คุณจะได้เห็นคนที่แอบรัก แต่ไม่กล้าบอกรัก

คนที่แอบรัก แล้วกล้าทำทุกอย่างเพื่อความรักแบบโจ่งแจ้ง

และคุณที่แอบรัก กล้าทำทุกอย่าง แต่ในมุมลับๆ

ซึ่งรักแบบไหนจะสมหวัง ก็คงต้องตามไปลุ้นกัน

 

แต่ใจความสำคัญของหนัง คือความรักแบบ “เพื่อน” มากกว่า

 

 

 

 

 

 

 

 

ป๊อบเชื่อว่าทุกคนเคยมีกลุ่มเพื่อน และเพื่อนในบางกลุ่มก็แตกต่างจนงงว่าคบกันไปได้ยังไง

 

ขณะที่คนหนึ่งอยากทำอย่างหนึ่งตลอดเวลา อีกคนแม้ไม่อยากทำแต่ก็ยอมๆ เพื่อนไป

ขณะที่คนหนึ่งพูดทุกสิ่งที่เขาคิด อีกคนกลับคิดทุกสิ่งแต่ไม่กล้าพุด

ขณะที่คนหนึ่งเสียใจ แล้วพูดทุกอย่าง อีกคนกลับเลือกจะเก็บความเสียใจ เพื่อไม่ให้ใครรับรู้

 

แต่ ไม่ว่าพวกเขาจะแตกต่างกันแค่ไหน ท้ายที่สุดพวกเขาก็ยินดีจะเคียงข้างกัน กอดคอเคียงบ่าเคียงไหล่กันในวันที่ยากลำบาก และหนังเรื่องนี้ได้พิสูจน์ให้ ทุกคนเห็นว่า “มิตรภาพมันยิ่งใหญ่ แม้ว่าจะต่างคนต่างแยกจากกันไป แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่ยึดเหนี่ยวมิตรภาพเข้าไว้ด้วยกัน” ซึ่งในที่นี้ก็หมายถึง เสียงเพลง

 

 

 

 

 

 

การ เลือกจะเล่นกับความเป็นวงดนตรีวัยรุ่น ถือเป็นความท้าทายที่น่าจับตามอง เพราะหากคุณเคยมีวงดนตรี คุณจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างกับการมีวงดนตรี บางทีสมาชิกบางคนอยากซ้อม แต่อีกคนไม่อยากซ้อม บางทีซ้อมแต่ต่างคนก็ต่างโชว์พาวจนไม่เป็นอันซ้อม สมาชิกบางคนไม่มีเวลาซ้อม สมาชิกบางคนจริงจังจนเห็นเรื่องผิดพลาดเล็กๆ ในวงเป็นเรื่องใหญ่ สมาชิกบางคนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับดนตรีแต่ไม่มีอำนาจพอจะคุมวงได้

 

แต่จะมีสักกี่วงที่รวมกันตัวเป็นวงดนตรีที่ดีได้?

แล้วจะมีสักกี่วงที่เดินไปสู่ความสำเร็จที่พวกเขาวาดฝันได้?

 

 

 

 

 

 

Suckseed สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงดนตรีวัยรุ่นทุกวง และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่นที่อยากจะมีวงดนตรีแต่ยังไม่มี ตัวหนังแสดงให้เห็นถึงการซ้อมอย่างหนัก การทุ่มเทในการแต่งเพลง การตั้งเป้าหมาย การกอดคอไปสู่ความฝัน ประเด็นที่น่าสนใจการสร้างวงของเหล่าตัวเอกก็คือ

 

“พวกเขารู้ว่าตัวเองเป็นพวกห่วย แต่เขายินดีจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขาเจ๋งกว่าที่ใครๆ คิด”

 

พวก เขาไม่ใช่พวกขี้แพ้ที่ห่วยแล้วห่วยเลย ไม่ใช่คนประเภทที่ได้ดีเท่าคนอื่นไม่ได้ ก็เลยปล่อยโอกาสทุกอย่างให้หลุดไปไม่สนใจจะใฝ่ดี พวกเขาไม่ได้เป็นจุดสนใจของสังคม แต่ต้องการจะโดดเด่นเพื่อหาที่ยืนในสังคม โดยส่วนตัวป๊อบคิดว่าความห่วยไม่ใช่เรื่องผิด แต่คุณจะผิดก็ต่อเมื่อจมกับความห่วยนั้น โดยไม่พยายมทำอะไรให้ตัวเองดีขึ้น

 

โลกนี้ไม่มีใครเจ๋งตั้งแต่แรก ทุกคนต้องเคยห่วยด้วยกันทั้งนั้น

แต่คนที่พังทลายความห่วยของตัวเองได้ ก็คือคนที่ตั้งใจจะเป็นอะไรดีๆ สักอย่าง และทำมันให้สุด

เพราะพวกเขาเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์ห่วยๆ ถ้าถูกรดด้วยความตั้งใจ ความเอาจริงเอาจังและความหวัง

มันก็พร้อมจะเติบโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแกร่ง โดดเด่นท่ามกลางผืนป่าที่แน่นขนัดได้เช่นกัน

 

Suckseed สอนให้คุณรู้ว่า “กุญแจสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่ ก็คือเพื่อนๆ ของคุณนั่นเอง”

 

 

 

 

 

 

หากคุณจะมีเพื่อนร่วมทางบนความฝัน ลองถามตัวเองซิว่า

“คุณเชื่อใจเขาแค่ไหน?”

“คุณเข้าใจเขา เวลาเขาเงียบไหม?”

“คุณรับรู้สิ่งที่เขาต้องการจะบอกผ่านท่าทางและสายตาหรือเปล่า?”

“คุณพร้อมจะสุข จะทุกข์ จะซวย ไปกับเขาในทุกสถานการณ์หรือไม่?”

“คุณรับได้ไหมบางเวลาที่เขาร้าย หรือ เอาแน่เอานอนไม่ได้”

“คุณดีแต่บอกความต้องการของตัวคุณ โดยไม่สนใจความต้องการของเขาหรือเปล่า?”

 

และสุดท้าย

 

“คุณให้อภัยเพื่อนคุณได้ไหม หากเขาทำผิด”

 

การ ให้อภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดหากคุณคิดจะมีเพื่อนบนความฝัน เพราะบางครั้งอีโก้ที่มากเกินไป อาจทำให้คุณเสียใจภายหลัง บางทีประโยคที่ว่า “กูยอมมึงไม่ได้” หรือ “มึงมันเลวเพราะไม่ได้ดั่งใจกู” หรือ “ไปไกลๆ กูเลย” เป็นคำที่โหดร้าย ก่อนจะพูดประโยคนี้ออกไป ลองคิดก่อนดีไหมว่ามันจะทำร้ายจิตใจเพื่อนคุณแค่ไหน ก่อนจะพูดมันออกไป ลองคิดย้อมกลับไปดูซิว่าเพื่อนคุณเคยยอมคุณมาเยอะแค่ไหน

 

เพราะมิตรภาพนั้นยิ่งใหญ่ แต่มันก็พังทลายได้ เพราะอีโก้ที่สูงเกินไปจริงๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

SuckSeed อาจไม่ใช่หนังที่ดูแล้วน้ำตารินไหลเป็นสายน้ำแบบหนังรักหลายๆ เรื่อง

แต่ ที่ป๊อบมั่นใจคือ มันจะเป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจได้ยิ่งใหญ่ เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ทำให้คุณรักเพื่อนขึ้นกว่าเดิมเยอะ เป็นหนังที่แสดง ให้เห็นความสวยงามของมิตรภาพ ทำให้คุณถามตัวเองว่า “คุณจะยอมเสียสละเพื่อให้เพื่อนมีความสุขหรือไม่” และ “มิตรภาพของคุณกับเพื่อนมันยิ่งใหญ่แค่ไหน?” เมื่อดูหนังเรื่องจบ คุณจะประทับใจ ซึ้งใจ อิ่มเอมใจ และมีแรงบันดาลใจ

 

โดยเฉพาะกับวัยรุ่น วัยเรียน

 

 

 

 

 

 

 

 

ป๊อบอยากบอกพวกคุณว่า “ช่วงชีวิตที่ดีที่สุดและสนุกที่สุดของหลายคนคือช่วงมัธยม”

มันเป็นช่วงที่มีสีสัน มีพลังเปี่ยมล้น และได้ใกล้ชิดกับเพื่อนมากที่สุดกว่าช่วงเวลาไหน

แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่สั้นที่สุดจนน่าใจหาย ลองถามตัวเองซิว่า

 

คุณรู้จักตัวเองดีหรือยัง?

คุณพร้อมจะวิ่งตามฝันแล้วหรือไม่?

คุณใช้มันเต็มที่แล้วหรือยัง

และท้ายที่สุด ถามตัวเองว่า “คุณมีเพื่อนแท้กับเขาสักคนบ้างหรือยัง?”

 

และสิ่งหนึ่งที่ป๊อบสรุปได้จากการดู Sukcseed แล้ว 2 รอบก็คือ

 

“Suckseed ห่วยขั้นเทพ เป็นหนังที่ดีที่ซี๊ดขั้นเทพ

และเป็นหนึ่งในหนังรักวัยรุ่นที่เพอร์เฟคที่สุดเรื่องหนึ่งของไทย”

 

ขอบคุณผู้กำักับ ทีมงาน นักแสดง ทุกท่านที่ทำให้หนังเรื่องนี้กำเนิดขึ้นมา

และขอบคุณคำว่า “เพื่อน” ที่ทำให้ป๊อบดูหนังเรื่องนี้แล้วซึ้งใจเหลือเกิน

 

 

** ถ้าชอบ อย่าลืม กด Like และ Share เป็นกำลังใจให้หนังไทยดีๆ ด้วยนะครับ **

ที่มา

http://www.facebook.com/notes/drpop/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-suck-seed-%E0%B8%BA%E0%B8%B1by-drpop/10150171806804369

ลูกเล่นใหม่เฟสบุ๊ค!!! เน้นข้อความ [chat]

ลูกเล่นใหม่เฟสบุ๊ค!!! เน้นข้อความ [chat]
หลังจากที่ผมเคยลงลูกเล่นเรื่อง  อีโมติคอน facebook ไปแล้วนั้น
วันนี้ผมมีลูกเล่นมาฝากอีกอันนึง นั่นก็คือ การเน้นข้อความ
เพียงแค่เราใส่ * ปิดหัวท้ายเท่านี้เองครับ
http://image.free.in.th/z/iz/37untitled.png
วิธีใช้
*sornram9254*

ผลลัพธ์
sornram9254

by : sornram9254

10 อันดับHosting ระดับโลก

10 HOSTING.com.ru

9 GreenGeeks

8 WebHostingPad.com

7 FatCow

6 iX WEBHOSTING

5 I Page

4 Blue Host

3 Myhosting

2 Justhost.com

1 HOSTGATOR

 

ที่มา : http://www.toptenthailand.com/display.php?id=2227

“เพื่อน” จะอยู่ในใจเสมอ :]]

http://image.free.in.th/z/il/copyof4725245.png

by : sornram9254

แอบดูความสัมพันธ์ของคนอื่นบน Facebook!!!

เพิ่มเติม : จริงๆผมโพสต์ลงเว็บนี้ไว้ก่อนที่โชว์วันที่ publish ด้านบนเสียอีก (06/07/2012) ตอนนั้นย้ายโดนเมนกับย้ายโฮสต์ใหม่เลยต้องโพสต์ใหม่อีกรอบ เขียนไว้ตั้งแต่ facebook ยังไม่ได้ประกาศเป็นทางการด้วยซ้ำ น่าจะช่วงต้นๆปีเลยแหละมั้ง พอดีผมไปเจอมาจากเว็บต่างประเทศว่ามี feature ใหม่เข้ามา เว็บ reddit มั้ง ถ้าจำไม่ผิด
เนื้อหาทั้งหมดมันเก่ามากแล้ว จริงๆรู้สึกหลังที่เปิดให้ทุกคนใช้ feature นี้ได้ (ซึ่งก็นานมากแล้วเช่นกัน) จะใช้ง่ายกว่านี้เยอะ คือกดปุ่มแถวๆปุ่มเพิ่มเพื่อนได้เลย จะมีตัวเลือก ดูความสัมพันธ์ให้อยู่ แต่ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้วก็ไม่ทราบ ^^
ปรับปรุงบทความ : ไม่บอก/06/2016


http://image.free.in.th/x/i/ib/facebooklogo.jpg

เคยไหมที่แอบหึงแฟน เคยไหมที่หวงแฟน แล้วยิ่งถ้าแฟนเล่น Facebook ก็ยิ่งกลัวว่าแฟนเรา

จะไปหม้อใครๆบน Facebook อีก แล้วถ้าเราอยากรู้หล่ะ!! ว่าแฟนเราคุยกับใคร

คุยว่าอะไรกันบ้างบน Facebook!!!

 

โฮ่ะๆๆ ไม่ยากเลยครับ ง่ายมากๆ

ก่อนอื่นเลย เราต้องหา Facebook ของฝ่ายตรงข้ามให้เจอก่อน ^0^

เมื่อเราเจอแล้ว ก็ให้ copy ID facebook ของคนที่เราอยากตรวจสอบซะ

ซึ่งอาจเป็น เลข idเช่น http://www.facebook.com/profile.php?id=1492029601

หรืออาจเป็นแบบ url เข่น http://www.facebook.com/sornram9254

จากนั้นให้เรานำเลข id หรือ url facebook ของคนที่เราอยากตรวจสอบมาใส่แทนที่เลขสีแดงด้านหลัง

ส่วนด้านหน้า ให้เราใส่ id หรือ url facebook ของแฟน เพื่อน หรือญาติของเราแทนลงไป

ถ้าทั้งเราและเขาไม่มี url [real name]หรือมีแต่ id facebook ทั้งคู่ ให้ใช้แบบนี้

http://www.facebook.com/profile.php?id=1492029601&and=123456789

ถ้าเรามี url [real name] แต่ เขามีแต่ id facebook ให้ใช้แบบนี้

http://www.facebook.com/sornram9254?and=123456789

ถ้าทั้งเราและเขามี url [real name] facebook ทั้งคู่ ให้ใช้แบบนี้

http://www.facebook.com/sornram9254?and=ABC
หมายเหตุ : วิธีนี้ ใช้ได้เฉพาะผู้ที่ "ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว" ให้ผู้อื่นสามารถมองเห็น "ความคิดเห็น" ของเขาได้เท่านั้น !!!

ถ้าทั้งเราและเขาไม่มี url [real name]หรือมีแต่ id facebook ทั้งคู่ ให้ใช้แบบนี้

http://www.facebook.com/friendship/1492029601/123456789

ถ้าเรามี url [real name] แต่ เขามีแต่ id facebook ให้ใช้แบบนี้

http://www.facebook.com/friendship/sornram9254/123456789

ถ้าทั้งเราและเขามี url [real name] facebook ทั้งคู่ ให้ใช้แบบนี้

http://www.facebook.com/friendship/sornram9254/ABC

หมายเหตุ : วิธีนี้ ใช้ได้เฉพาะผู้ที่ “เป็นเพื่อนกับเราทั้งคู่” และเปิดให้ผู้อื่นสามารถมองเห็น “ความคิดเห็น” ของเขาได้เท่านั้น !!!

http://image.free.in.th/x/i/ii/0facebook_logo.jpg

BY : sornram9254

Valentines This year I’m very alone

Valentines This year I’m very alone,, T^T

http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcROntuKkeTqxrddmoZMzTNWs3gXU_yHpXZpDKLJ45rr9p4Xgf2ADg&t=1

“รัก” คือการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน
“รัก” คือการรักษาน้ำใจของกันและกัน
“รัก” คือการเสียสละเพื่อคนที่เรารัก
ถึงแม้ว่า เขาจะไม่ได้อยู่กับเรา แต่เพียงแค่เราได้เห็นเขามีความสุข แค่นี้ก็ “เกินพอแล้ว”

และแล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี Valentine’s Day .. .
วันนี้เป็นวันที่คนโสดเศร้ากันมากที่สุด มองไปทางซ้ายก็มีแต่คนมีคู่ มองไปทางขวาก็เห็นเขาจู๋จี๋กัน
จะมองไปทางไหนๆก็มีแต่คนมีคู่ คนโสดๆอย่างเราก็น้อยใจ.. เฮ้อ!! จะมีใหมนะ? สักสันหนึ่งที่เราจะมีใครสักคน
มาเดินคู่กัน เดินจุงมือกัน พาไปกินข้าว ดูหนังกัน เห็นคนอื่นเขาเดินกันเป็นคู่ เฮ้อ อิจฉาชะมัด .. .

อิจฉาเขาจูงมือกัน
อิจฉาเขาหอมแก้มกัน
แต่ทำไมตัวฉัน จึงไม่มีสิทธิอย่างเขา
อิจฉาเขาเดินกอดกัน
แต่ฉันทำได้แค่เพียงมอง
มองมองดูเขารักกัน T^T

สักวัน หวังว่าคงมีวันที่เป็นของเราบ้างนะ มีคนที่จริงใจเข้ามาในชีวิตบ้างสักคน เนอะๆ :]]

เมื่อไหร่จะมีใครใครสักคนที่เป็นของเรา
เมื่อไหร่จะมีใคร ใครสักคนนะที่รักเรา
เท่านี้..ที่ต้องการ ขอเกินไปตรงไหน
เมื่อไหร่จะมีใคร ใครสักคนที่เคียงข้างเรา
เเค่อยากจะมี คนที่ทำให้ใจไม่ต้องเหงา..
ไม่รู้..ต้องเมื่อไหร่ เหมือนมันยังห่างไกล .. .

ถึงหน้าตาจะดีหรือหล่อไม่เจ้าตาใครๆ แต่ขอให้เป็นคนที่จริงใจ และรักจริงก็พอแล้ว เนอะๆ ^0^

อยากจะมีความรักเหมือนดังใครๆ
อยากจะเป็นคนรักของใครสักคน
คนที่ฉันรอเธออยู่แห่งหนใด
จะมีใครบ้างไหมที่ใจตรงกัน
และบังเอิญที่ฉันจะไปตรงใจ
ก่อนนอนทุกคืน
ได้แต่อธิษฐานให้เราได้พบกัน .. .

http://egirlsmag.com/wp-content/uploads/2009/02/valentines-day-gifts.jpg

หวังว่า Valentine ปีหน้า คงมีคนให้เดินจับมือ ก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกันนะ .. .

By : sornram9254